
ท่าฟรีสไตล์ คือ การว่ายน้ำที่ไม่จำกัดแบบหรือท่า
ในการแข่งขันคุณจะว่ายแบบใดก็ได้ แต่การว่ายฟรีสไตล์เป็นการว่ายที่เร็วที่สุด
การว่ายแบบฟรีสไตล์เป็นอย่างไร ?
การว่ายท่านี้เป็นการนอนคว่ำลงในน้ำ หมุนแขนของท่านผ่านใต้น้ำและเหนือน้ำอย่างต่อเนื่อง ขาของท่านต้องเตะขึ้นลงอย่างสม่ำเสมอ และหายใจเมื่อท่านหมุนหน้าไปด้านข้าง
2. การว่ายน้ำท่ากรรเชียง: BACKSTROKE


ท่ากรรเชียง (อังกฤษ: Backstroke) ท่ากรรเชียงเป็นท่าว่ายน้ำที่นิยมกันทั้งในการแข่งขันและในการออกกำลังกายยามว่าง ผู้เริ่มฝึกว่ายน้ำจะมีความรู้สึกว่าตนเองเรียนรู้วิธีการว่ายท่ากรรเชียงได้ง่ายกว่าท่าวัดวา ท่ากบหรือท่าผีเสื้อ ซึ่งเป็นเพราะหน้าไม่ต้องจมอยู่ในน้ำ นอกจากนั้นการลอยตัวหงายว่ายท่ากรรเชียงทำให้หายใจได้สะดวกกว่า ลืมตาได้ง่ายกว่า แต่การว่านน้ำไปข้างหลังซึ่งตามองไม่เห็น ต้องระวังไม่ให้ชนกับตนอื่น ก่อนฝึกท่ากรรเชียงต้องแน่ใจว่าสามารถลอยตัวหงายได้ดี สบายๆไม่เกร็งได้แล้วจึงเริ่มฝึกขั้นต่อไป
3. การว่ายน้ำท่ากบ :BREASTSTROKE


ท่ากบเป็นท่าที่ ผู้ชื่นขอบการว่ายน้ำเล่นๆ ชอบว่ายมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ดูแล้วเป็นการว่ายที่สบายๆ ไม่ต้องออกแรงมากมายนัก แต่การว่ายท่ากบในการแข่งขันนั้นต้องมีการฝึกฝนและมีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อเป็นเช่นนี้เรื่องที่ดูว่าสบายก็คงไม่สบายเสียแล้วการว่ายท่ากบเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร เพราะการว่ายให้เร็วและถูกต้องไม่สามารถทำได้ทุกคน ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อม สมรรถภาพของร่างกาย การที่กล่าวเช่นนี้เพราะการว่ายท่ากบต้องอาศัยความแข็งแรงของกล้ามเนื้อของช่วงล่างตั้งแต่สะโพกจนถึงข้อเท้า อีกทั้งมีโครงสร้างร่างกายที่เหมาะสม เช่น ข้อเท้าและข้อพับที่หัวเข่าต้องมีความยืดหยุ่นและมีความแข็งแรงสูง จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ จะทำให้ท่ากบไม่ดีเท่าที่ควร คือ ขาดพลังที่จะส่งตัวไปข้างหน้า การว่ายท่ากบแบบใหม่ที่เรียกกันว่าแบบ " ลูกคลื่น" นั้นเป็นการว่ายแบบยกสะโพกคล้ายกับการยก สะโพกของท่าผีเสื้อ ซึ่งเป็นการถ่ายน้ำหนักตัวให้เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวในการว่าย ด้วยอาศัยการเคลื่อนตัวแบบ " แอร์โร่ ไดนามิก " การใช้ แขน ว่ายท่ากบที่ถูกต้อง ห้ามยกแขนพ้นผิวน้ำ การใช้แขนดึงน้ำต้องดึงพร้อมกันทั้งสองข้างเทคนิคการใช้แขนต้องเหยี่ยดแขนไปข้างหน้าให้สุด มือปะกบติดกันเสียบในระดับผิวน้ำ หลังจากนั้นให้ปาด แขนออกโดยใช่ฝ่ามือกดน้ำในลักษณะเฉียง 45 องศา จากผิวน้ำเทคนิคสำคัญในการดึงน้ำจังหวะที่ 1 ข้อมือต้องกว้างกว่าข้อศอก สองการดึงน้ำจังหวะที่สอง เป็นการล็อกข้อศอกให้อยู่กับที่ โดยให้ฝ่ามือปาดน้ำเข้าหากัน ส่วนการใช้แขนจังหวะสุดท้ายเป็นการรวบข้อศอกเข้าหากันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเหยียดแขนพุ่งไปข้างหน้า การใช้ เท้า จังหวะแรกเป็นการพับเข่า ที่สำคัญต้องไม่เป็นการชักเข่า ส่วนจังหวะที่สอง เป็นการ แบะฝ่าเท้าออกโดยล็อกเข่าให้อยู่กับที่ และในจังหวะสุดท้ายให้ถีบฝ่าเท้าออกพร้อมทั้งรวบฝ่าเท้าเข้าหาปะกบ กันอย่างรวดเร็ว เทคนิคที่สำคัญในการใช้เท้าอยู่ที่จังหวะถีบสุดท้ายต้องมีความเร็วหรืออัตราการเร่งของการใช้เท้าเข้ามาเกี่ยวข้องกันด้วย ตำแหน่งของ ลำตัว ในการว่ายท่ากบท่าปกติจะเอียงประมาณ 15 องศา จากผิวน้ำ แต่การว่ายท่ากบแบบลูกคลื่นหรือแบบใหม่นี้ ตำแหน่งลำตัวค่อนข้างจะขนานกับผิวน้ำ โดยอาศัยการถ่ายน้ำหนักเช่นเดียว กันกับท่าผีเสื้อ การว่ายท่ากบเป็นท่าที่ว่ายช้าที่สุดในบรรดาท่าว่ายทุกท่าหากปฏิบัติตามข้างต้นแล้วก็มิใช่ว่า จะต้องได้รับชัยชนะ แต่เป็นเพียงทำให้การว่ายท่ากบที่ดีขึ้นเพราะว่ายให้ได้ชัยชนะนั้นต้องมีองค์ประกอบอีกหลายอย่าง เช่น การออกตัว การกลับตัว การเข้าเส้นชัยสิ่งต่าง ๆ นี้จะได้มาก็จากผู้ฝึกสอนชี้แนะ และตัวนักกีฬานำไปปฏิบัติและฝึกซ้อมอย่างเคยชินจนชำนาญ
4. การว่ายน้ำท่าผีเสื้อ :BUTTERFLYSTROKE


ท่าผีเสื้อ (อังกฤษ: Butterfly stroke) คือท่าว่ายที่ยากของการที่จะเรียนรู้ท่าว่ายนี้ต้องการกล้ามเนื้อจำนวนมากและข้อต่อและเคลื่อนไหวของไหล่และ ช่วงหลังถึงสะโพก การว่ายน้ำท่านี้ต้องการจังหวะที่ดีของแขนและการเตะขาและจังหวะการหายใจ คือผู้ช่วยซึ่งจำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่จะว่ายน้ำท่าผีเสื้อ การฝึกฝนและการเรียนรู้ในการหมุนหัวไหล่จะช่วยในการว่ายให้ดีขึ้น ถ้าคุณมีความรู้สึกที่จะดูการว่ายของปลาโลมา, สิ่งนั้นคือท่าว่ายสำหรับคุณ เพราะเมื่อคุณดูนักว่ายน้ำว่ายท่าผีเสื้อ และรู้สึกมีชีวิตชีวาและมีจินตนาการการว่ายของปลาโลมา นั่นแหละคุณกำลังจะเป็นนักว่ายน้ำท่าผีเสื้อที่ดีในอนาคต
ท่า START
ท่ากลับตัว
: ข้อมูลจากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น